วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ระบบ MRP กับ JIT มีสวนในการจัดการสินค้าคงคลังอย่างไร

Material Resource Planning : MRP
การวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ
(Material Resource Planning : MRP)
ความหมายอย่างสั้น
การวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ คืออะไร?
การวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (Material Resource Planning : MRP) เป็นเทคนิคการวางแผนและการจัดหาวัสดุชนิดต่างๆที่มีความต้องการใช้ในการผลิต โดยระบบการวางแผนการ จัดสรรวัตถุดิบ จะมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการวางแผนควบคุมแผนการสั่งซื้อ การส่งมอบสินค้า สินค้าคงคลัง รวมทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และชิ้นส่วนที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิต
ความสำคัญของเรื่อง
ประโยชน์ของการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ ปัจจุบันโรงงานได้นำการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (MRP) มาใช้ในการจัดการวัตถุดิบเป็นจำนวนมาก ในอดีตการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (MRP) ได้รับการยอมรับ และได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอื่นๆที่ เกี่ยวข้องกับการประกอบชิ้นส่วนเป็นหลัก แต่ปัจจุบันการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (MRP) ได้ถูกนำมาใช้ในวงกว้างขึ้น โดยไม่ได้เน้นที่อุตสาหกรรมการประกอบชิ้นส่วนอีกต่อไป โดยไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยา อาหาร เคมี หรือผ้า ก็ได้มีการนำการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (MRP) มาใช้ในการจัดการควบคุมวัตถุดิบอย่างกว้างขวาง
ความหมายอย่างละเอียด
การทำงานของการวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ
การวางแผนการจัดสรรวัตถุดิบ (MRP)ทำงานโดยใช้ข้อมูล 3 ชุด คือ
1. แผนการผลิตหลัก ซึ่งแสดงปริมาณของสินค้าสำเร็จรูปที่ต้องการ ตลอดระยะเวลาที่วางแผน
2. รายการวัสดุ ซึ่งใช้สำหรับแตกรายการสินค้าสำเร็จรูปในแผนการผลิตหลักให้เป็นชิ้นส่วนและส่วนประกอบย่อย
3. บันทึกสถานภาพของสินค้าคงคลัง ซึ่งจะระบุจำนวนชิ้นส่วน ส่วนประกอบย่อย และปริมาณสินค้าสำเร็จรูปในคลัง รวมถึงปริมาณชิ้นส่วนที่อยู่ในขั้นตอนการ


JIT ระบบทันเวลาพอดี ย่อมาจากคำว่า Just-in-time ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นระบบการส่งมอบ วัตถุดิบ สินค้า หรือบริการ มาถึงผู้ใช้ในเวลาที่ต้องการ และจำนวนที่ต้องการใช้เท่านั้น ระบบทันเวลาพอดี อาจเรียกได้หลายชื่อ เช่น ระบบสินค้าคงคลังเท่ากับศูนย์ (Zero Inventory) หรือ ระบบการผลิตที่ไม่มีสินค้าคงคลัง (Stockless Production) หรือ ระบบสั่งวัสดุเมื่อต้องการ (Material as needed) โดยส่วนใหญ่ใช้ในกระบวนการผลิต เช่น โรงงานผลิตรถยนต์

ประโยชน์ของJIT
  • ช่วยลดสินค้าคงคลัง ทำให้ลดขนาดพื้นที่ในการเก็บ
  • สามารถกำหนดเวลาในการรับของได้
  • ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าคงคลัง การหยิบ การยกขน
  • ลดเวลาในการจัดเรียง การจัดเก็บสินค้า
  • ควบคุมสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุดหรือเท่ากับศูนย์
  • ลดเวลานำหรือระยะเวลารอคอยในระบบ
  • ขจัดปัญหาของเสียหรือที่เกิดขึ้นจากการผลิต
  • ขจัดความสูญเปล่าในการผลิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น